สรุปงานวิจัย
วิจัยเรื่อง...การพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตรของเด็กปฐมวัยโดยใชกิจกรรมการเรียนรูประกอบชุดแบบฝกทักษะ
ปริญญานิพนธ
ของ
เอราวรรณ ศรีจักร
1. เด็กปฐมวัย หมายถึง
เด็กนักเรียนชาย - หญิง ที่มีอายุระหวาง 4 - 5 ปซึ่งกําลัง
ศึกษาอยูระดับอุบาลศึกษา
2. การพัฒนา หมายถึง
ผลลับของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทักษะกระบวนการ
วิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ไดรับจากการจัดกิจกรรมการเรียนรูประกอบชุดแบบฝึกทักษะ
วิทยาศาสตรสาหรับเด็กปฐมวัย
ซึ่งประเมินโดยแบบประเมินที่ผูวิจัยสร็างขึ้น
3. ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยหมายถึง
ความสามารถของ
เด็กปฐมวัยในการใช้ความคิดคนหาความรู้เพื่อหาคําตอบที่เป็นองค
ความรู้ได้ในการวิจัยนี้
จําแนกเปน 4 ดาน ดังนี้
3.1 การสังเกต หมายถึง ความสามารถในการใชประสาทสัมผัสอยางใดอยางหนึ่ง
หรือหลายอยางรวมกัน ไดแก หู ตา
จมูก ลิ้น และผิวกาย เขาไปสัมผัสโดยตรงกับวัตถุหรือ
เหตุการณแล้วเด็กสามารถบอกลักษณะหรือความแตกตางของสิ่งนั้นได
3.2 การจําแนกประเภท หมายถึง ความสามารถในการแบงประเภทสงของโดยม
เกณฑที่ใชในการจำแนกประเภทอยางใดอยางหนึ่งไดแก
ความเหมือน ความแตกตางและ
ความสัมพันธ
3.3 การสื่อสาร
หมายถึง ความสามารถในการบอกขอความหรือเลาใหฟงถึงสิ่งที่
คนพบจากการสังเกต
การทดลองเพื่อใหผูอื่นเขาใจไดถูกตอง
3.4 การลงความเห็น หมายถึง ความสามารถในการอธบายหรือสรุปความเห็นสิ่ง
ที่คนพบหรืออธิบายสิ่งที่เกดขึ้นตามมาหรือที่ไดจากประสบการณการเรียนรูรวมกับการใช้เหตุผล
4. กิจกรรมการเรียนรูหมายถึงงานการเรียนสําหรับเด็กปฐมวัยที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น
เพื่อใหเด็กไดปฏิบัติการการเรียนรโดยจัดลําดับสาระตามชุดแบบฝกทักษะวิทยาศาสตรของ
รศ.ดร.กุลยา ตันติผลาชีวะ
ที่นํามาใชประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรูโดยเนนใหเด็กไดลงมือ
กระทําไดรับประโยชนจริง ดังนี้6
ขั้นนํา
เปนขั้นการเตรียมเด็กเขาสูกิจกรรมการเรียนรูประกอบดวยกิจกรรมอยาง
ใดอยางหนึ่งที่มีเนื้อหาสอดคลองกับเรื่องที่จะเรียน
ขั้นสอน แบงออกเปน 2 ตอน
ตอนที่ 1 จัดกิจกรรมใหเด็กมีความรูความเขาใจเกี่ยวกับมโนทัศนของเรื่องที่เรียน
และ
ตอนที่ 2 ทําชุดแบบฝกทักษะตามมโนทัศนของเรื่องที่เรียน
ขั้นสรุป เด็กรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกบทักษะกระบวนการวิทยาศาสตรที่เด็กได้รับ
จากการเรียนเรื่องนั้นๆ
5. ชุดแบบฝึกทักษะ
หมายถึง แบบฝกทักษะวิทยาศาสตรโดยเนนการใชสมองเปนฐานการเรียนรู
(Brain - Based
Learning) สําหรับเด็กปฐมวัยที่ออกแบบโดย ดร.กุลยา ตันติผลาชีวะจํานวน
4 เรื่อง คือ การสังเกต พืช สัตวและโลกของเรา
กรอบแนวคิดในการวิจัย
สมมติฐานในการวิจัย
เด็กปฐมวัยที่ไดรับการจัดกิจกรรมการเรียนรูประกอบชดแบบฝ ุ กท ักษะ
มีการพฒนา ั
ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตรกอนและหลังการทดลองแตกตางกัน
ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร
1. การสังเกต
2. การจําแนกประเภท
3. การสื่อสาร
4. การลงความเห็น
กิจกรรมการเรียนรูประกอบชุดแบบฝึกทักษะ
• ขั้นนํา
• ขั้นสอน
แบงออกเปน 2 ตอน
ตอนที่ 1
จัดกิจกรรมการเรียนรู
ตอนที่ 2
ทําชุดแบบฝกทักษะ
วิทยาศาสตร
• ขั้นสรุ
ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตรขั้นพื้นฐาน (Basic Science Process Skills) มี8 ทักษะ ดังนี้
1. ทักษะการสังเกต (Observation)
หมายถึง
ความสามารถในการใชประสาทสัมผัสอยางใดอยางหนึ่งหรือหลายอยางรวมกันเขาไปสัมผัสโดยตรงกับวัตถูหรือเหตการณ์โดยมีจุดประสงค์เพื่อหารายละเอียดของสิ่งนั้นๆ
2. ทักษะการวัด (Measurement)
หมายถึง
ความสามารถในการใชเครื่องมือวัดหาปริมาณของสิ่งตางๆ
ไดอยางถูกตองโดยมีหนวยกํากับและรวมไปถึงการใชเครื่องมืออยางถูกตอง
3. ทักษะการคํานวณ (Using
numbers) หมายถึง ความสามารถในการบวก ลบคูณหาร
ตัวเลขที่แสดงคาปริมาณของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งไดจากการสังเกต การวัดหรือการทดลอง
4. ทักษะการจําแนกประเภท (Classification) หมายถึง ความสามารถในการจัด
จําแนกหรือเรียงลําดับวัตถุหรือสิ่งที่อยูในปรากฏตางๆ
ออกเปนหมวดหมูโดยมีเกณฑที่ใช้ใน
การพิจารณา 3 ประการ คือ
ความเหมือน ความแตกตางและความสมพันธ์
5. ทักษะความสัมพันธระหวางมิติของวัตถุกับเวลา (Space / Space Relation -
ship and space / time relationship) หมายถึง
ความสามารถในระบุความสัมพันธระหวางสิ่ง
ตอไปนี้ความสัมพันธระหวาง 2 มิติกับ 3 มิติสิ่งที่อยูหนากระจกเงากับภาพในกระจกเปนซาย
ขวาของกันและกันอยางไร ตําแหนงที่อยูของวัตถุหนึ่งกับอีกวัตถุหนึ่ง
การเปลี่ยนแปลงตําแหนง
ที่อยูของวัตถุบเวลาหรือมิติของวัตถุเปลี่ยนแปลงไปกับเวลา มิติ (Space) ของวัตถุหมายถึง
ที่วางบริเวณที่วัตถุนั้นครอบครองอยูซึ่งมีรูปรางและลักษณะเช่นเดียวกับบวัตถุนั้น
โดยทั่วไปแลว
มิติของวัตถุจะมี 3 มิติ (Dimensions) ไดแก ความกวาง ความยาว ความหนาหรือความสูงของ
วัตถุ
6. ทักษะการจัดกระทําและสื่อความหมายขอมูล (Organization data and
communication) หมายถึงความสามารถในการนําขอมูลที่ไดจากการสังเกต
การวัด การทดลอง
และจากแหลงอื่นๆ มาจัดใหม โดยวิธีการตางๆ เชน การจัดเรียงลําดับ
การจัดแยกประเภท
เพื่อใหผูอื่นเขาใจความหมายของขอมูลชุดนั้นๆ ดีขึ้น
โดยการนําเสนอในรูปตาราง แผนภูมิ
แผนภาพ กราฟ
7. ทักษะการลงความเห็นจากขอมูล (Inferring) หมายถึง ความสามารถในการนําเสนอ
อธิบายขอมูลที่มีอยูซึ่งไดมาจากการสังเกต การวัด การทดลอง
โดยเชื่อมโยงกับความรูเดิมหรือ
ประสบการณเดิม เพื่อสรุปความเห็นเกี่ยวกับขอมูลนั้นๆ
8. ทักษะการพยากรณ (Prediction) หมายถึง ความสามารถทํานายหรือคาดคะเน
สิ่งที่จะเกิดขึ้นลวงหนา โดยอาศัยการสังเกตปรากฏการณซ้ำๆ
และนําความรูที่เปนหลักการ
กฎหรือทฤษฎีในเรื่องนั้นๆ มาชวยในการทํานาย
การทํานายทําไดภายในขอบเขตของขอมูล
(Interpolating) และภายนอกขอบเขตขอมูล
(Extrapolating)